4 ทองคำที่นิยมลงทุน ทองมีกี่แบบ เปิดโลกแห่งทองคำที่คุณต้องรู้

ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในด้านการลงทุนและเครื่องประดับ แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทองคำมีหลายประเภท และแต่ละแบบมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป การเลือกทองคำให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าคุณจะต้องการซื้อทองเพื่อสะสม ลงทุน หรือใช้เป็นเครื่องประดับ บทความนี้จะ Trand Chain จะพาคุณไปรู้จักกับ ประเภทของทองคำ พร้อมแนะนำว่าทองคำแบบไหนเหมาะกับการลงทุนและการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณ

1. ทองคำแบ่งตามความบริสุทธิ์

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการจำแนกทองคำคือ การดูค่าความบริสุทธิ์ของทองคำ (กะรัต) ซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงและมูลค่าของทอง

• ทองคำบริสุทธิ์ 24K (99.99%) – ทองคำแท้ที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะอื่น เป็นทองที่เหมาะกับการลงทุน เช่น ทองคำแท่ง เพราะมีค่าความบริสุทธิ์สูงสุด แต่มีความอ่อนนุ่ม จึงไม่เหมาะสำหรับทำเครื่องประดับ
• ทอง 18K (75%) – ผสมทองคำบริสุทธิ์กับโลหะอื่น ๆ 25% เพื่อเพิ่มความแข็งแรง นิยมใช้ในเครื่องประดับระดับพรีเมียม
• ทอง 14K (58.3%) – ผสมทองคำและโลหะชนิดอื่น ๆ มากขึ้น ทำให้มีความแข็งแรงกว่า 18K และเป็นที่นิยมในตลาดเครื่องประดับ
• ทอง 9K (37.5%) – มีสัดส่วนทองคำเพียง 37.5% และส่วนที่เหลือเป็นโลหะอื่น ๆ ทำให้แข็งแรงและทนทาน เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่มีค่านิยมต่ำกว่าทอง 18K และ 24K

หากต้องการลงทุน ควรเลือกทอง 24K หรือ 99.99% แต่ถ้าต้องการซื้อเครื่องประดับที่ทนทาน ให้เลือก 18K หรือ 14K

2. ทองคำแบ่งตามสี

รู้หรือไม่? ทองคำไม่ได้มีแค่สีเหลืองเท่านั้น แต่สามารถมีสีที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับโลหะที่ผสมเข้าไป

• ทองคำเหลือง (Yellow Gold) – สีดั้งเดิมที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด เกิดจากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับเงินและทองแดง
• ทองคำขาว (White Gold) – มีสีขาวเงางามจากการผสมแพลเลเดียมหรือเงิน มักใช้ในเครื่องประดับระดับหรู และเคลือบด้วยโรเดียมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
• ทองคำชมพู (Rose Gold) – เกิดจากการผสมทองคำและทองแดง ทำให้มีสีชมพูอมแดง ได้รับความนิยมมากในเครื่องประดับแฟชั่น
• ทองคำดำ (Black Gold) – ได้จากการเคลือบผิวด้วยสารเคมีหรือการใช้เทคนิคออกซิไดซ์เพื่อให้มีสีดำเงา
• ทองคำเขียว (Green Gold) – เกิดจากการผสมทองคำและเงิน ทำให้ได้สีเขียวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ทองแต่ละสีมีความแตกต่างกันในด้านความสวยงามและการใช้งาน ทองคำขาวและโรสโกลด์มักใช้ในเครื่องประดับ ส่วนทองคำเหลืองเหมาะกับทั้งการลงทุนและสวมใส่

3. ทองคำแบ่งตามประเภทการใช้งาน

ทองคำสามารถแบ่งได้ตามรูปแบบการใช้งาน ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของนักลงทุนและผู้ที่ต้องการใช้ทองเป็นเครื่องประดับ

• ทองคำแท่ง – เหมาะกับการลงทุนเพราะมีค่ากำเหน็จน้อย สามารถซื้อ-ขายได้ง่าย
• ทองรูปพรรณ – เป็นทองที่ถูกนำมาขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ หรือกำไล มีค่ากำเหน็จสูงกว่าทองแท่ง
• ทองคำชุบ – เป็นการเคลือบทองคำบาง ๆ บนโลหะอื่น มีราคาถูกกว่าทองแท้ แต่มักจะเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานไปนาน ๆ

หากต้องการลงทุน ให้เลือกทองแท่งเพราะมีราคาตามตลาดโลกและขายได้ง่าย หากต้องการสวมใส่ ควรเลือกทองรูปพรรณหรือทอง 18K เพื่อความทนทาน

4. การเลือกทองคำสำหรับการลงทุน

หากคุณต้องการซื้อทองเพื่อการลงทุน นี่คือปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง

• เลือกทองคำบริสุทธิ์ 99.99% – ทองคำแท่งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะไม่มีค่ากำเหน็จสูงเหมือนทองรูปพรรณ
• ตรวจสอบราคาทองคำรายวัน – ราคาทองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ควรเช็กแนวโน้มราคาก่อนตัดสินใจซื้อ
• เลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ – ควรเลือกซื้อจากร้านที่เป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำเพื่อความมั่นใจในคุณภาพ
• เก็บรักษาทองอย่างปลอดภัย – ควรเก็บทองคำแท่งไว้ในที่ปลอดภัย เช่น ตู้นิรภัย หรือฝากไว้กับธนาคาร

สรุป ทองคำแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

ประเภทของทองคำมีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ในการซื้อ หากคุณต้องการลงทุน ควรเลือกทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์สูง แต่หากต้องการเครื่องประดับ ควรเลือกทองรูปพรรณที่มีค่ากะรัตเหมาะสมกับการใช้งาน

ทองคำแท่ง – เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเก็บมูลค่าในระยะยาว
ทองรูปพรรณ – เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องประดับที่มีคุณค่า
ทองคำขาว/ทองชมพู – เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องประดับที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัย

สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะซื้อทองเพื่อการลงทุนหรือสวมใส่ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและเลือกประเภททองคำให้เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ

การเริ่มต้นการลงทุนทองคำ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรและรักษามูลค่าทรัพย์สินของคุณในระยะยาว